เกี่ยวกับเรา

พูดคุยกับเวบมาสเตอร์

วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปมะคาเดเมียดอยช้าง (Leesoaw Macadamia) จัดจำหน่ายและจัดส่งมะคาเดเมียลีซอ, น้ำมันมะคาเดเมีย ทางกลุ่มฯ ขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนสินค้าของกลุ่มฯ ด้วยดีเสมอมา

เปิดทำการทุกวันทำการ เวลา 08.30 - 17.00 น.
Tel: 089-5569895

มะคาเดเมีย
“ราชาพืชเคี้ยวมัน”

Macademai

อดีตดอยช้างเคยเป็นแหล่งปลูกฝิ่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ปัจจุบันชาวเขาบนดอยช้างได้เปลี่ยนมาปลูกมะคาเดเมียซึ่งเป็นไม้ยืนต้นที่สร้างอาชีพและรายได้ ทั้งยังเป็นการมอบผืนป่ากลับคืนสู่ธรรมชาติอย่างยั่งยืน

มะคาเดเมีย เป็นพืชเมืองกึ่งร้อนชนิดหนึ่ง เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ใบเขียวตลอดทั้งปีสามารถเจริญเติบโตได้ดีบนพื้นที่สูงระดับ 1,000 เมตรขึ้นไปจากระดับน้ำทะเล อย่างเช่น พื้นที่บนดอยช้าง การพัฒนาของผลมะคาเดเมีย เป็นไปอย่างช้าๆ อายุการเก็บเกี่ยวจึงนานกว่าพื้นที่ต่ำกว่า 1,000 เมตร ลงมา ผลของมะคาเดเมียออกเป็นช่อ ทรงกลม เปลือกนอกเป็นสีเขียว ภายในเป็นกะลาสีน้ำตาล เนื้อในสีขาวรสชาติมัน กรอบ อร่อย จะทานแบบดิบ หรือปรุงแต่งเป็นของขบเคี้ยว ขนม และอาหารอีกหลายชนิด เช่น อบ คั่ว ทอด คลุกเกลือ เคลือบน้ำตาลหรือช็อคโกแลต

มะคาเดเมียไม่มีคอเลสเทอรอล เนื้อในประกอบด้วยน้ำมันชนิดไม่อิ่มตัว เช่น กรดโอเลอิก กรดปาล์มมิโตเลอิก กรดปาล์มมิติก กรดสเตียริก กรดไมริสติก กรดโดโคเฮกซะอีโนอิก กรดไลโนเลอิก เป็นต้น ซึ่งช่วยลดปริมาณคลอเรสเทอรอล ลดปริมาณ ดีเอชแอล ทำให้สามารถช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ ในกลุ่มของถั่วเปลือกแข็งชนิดต่างๆ มะคาเดเมียมีสารต้านอนุมูลอิสระมาก รองจากบราซิลนัท ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดอัตราความเสียหายอันเนื่องจากปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่นของเซลล์ ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคมะเร็ง



ต้นมะคาเดเมียสายพันธุ์ที่พัฒนามาจากพันธุ์ออสเตรเลีย และปรับปรุงพันธุ์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและ รสชาติหอม มัน กว่าเดิม


กะลาสีน้ำตาล ผลมะคาเดเมีย


ลูกมะคาเดเมียสด จะมีเปลือกชั้นนอกสุดเป็นสีเขียวแก่ ผิวเรียบมัน เกษตรกรจะต้องรอให้ลูกมะคาเดเมียแก่และหล่นออกจากต้น เอง ไม่ควรเก็บผลิตผลทั้ง ๆ ที่ลูกยังเขียวคาต้น เพราะจะทำให้คุณภาพเม็ดมะคาเดเมียที่ได้นั้นไม่สมบูรณ์พอ


หลังจากที่ปอกเปลือกเขียวแล้ว ผลของมะคาเดเมียจะออกมาในรูปของเปลือกสีน้ำตาลเข้ม เรียกว่ากะลา และหากมีการกระเทาะต่อจะได้เนื้อในของมะคาเดเมียที่สามารถนำมารับประทานได้


เนื้อมะคาเดเมียเนื้อในสุด สามารถนำมาอบในความร้อนที่พอเหมาะ และรับประทานเล่นได้รสชาดดี

ป่ามะคาเดเมียที่อุดมสมบูรณ์


  • ความลงตัวของสภาพภูมิประเทศ เนื่องด้วยดอยช้าง มีสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมกับการปลูกมะคาเดเมีย และมีน้ำอุดมสมบูรณ์เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นป่า 98% หน้าดินลึก และมีความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งต้น มะคาเดเมีย ยังชอบอยู่สลับกับต้นกาแฟ ซึ่งจะส่งผลให้มะคาเดเมียเจริญเติบโตได้ดี มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • ความลงตัวของสภาพภูมิอากาศ ด้วยอุณหภูมิที่อยู่ในระดับทรงตัว ประมาณ 10 – 30 องศาเซลเซียส ตลอดทั้งปีของสภาพภูมิอากาศบนดอยช้าง ซึ่งเหมาะสมกับต้นมะคาเดเมีย ที่ชอบอุณภูมิประมาณ 10-30 องศาเซลเซียส และจะยิ่งส่งผลดีมากขึ้นหากหน้าหนาวมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 18 องศาเซลเซียส ด้วยสาเหตุนี้ ดอยช้างจึงมีข้อได้เปรียบทั้งทางด้านสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศอย่างชัดเจน
  • ความรู้ และทักษะ เจ้าหน้าที่ได้ผ่านการอบรมของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปมะคาเดเมียดอยช้าง โดยมีการรวมตัวของชุมชนท้องถิ่น สร้างอาชีพและรายได้จากการผลิตมะคาเดเมียป้อนสู่ตลาดภายในและภายนอกประเทศ
  • การปรับปรุงพันธุ์ของมะคาเดเมีย เนื่องจากเราได้นำพันธุ์ออสเตเลียมาพัฒนาสายพันธุ์ให้ดีขึ้น ทั้งในด้านการเจริญเติบโต การให้ผลผลิต และขนาดของเมล็ดพันธุ์ที่ใหญ่ และให้รสชาติที่ดี
  • การสนับสนุนอาชีพให้กับชุมชนในท้องถิ่น วิสาหกิจชุมชนแปรรูปมะคาเดเมียดอยช้าง จังหวัดเชียงราย เป็นการรวมตัวกันของชุมชนท้องถิ่นดอยช้าง ชาวบ้านได้รับการอบรมและใช้ชีวิตประจำวันใกล้ชิดกับไร่มะคาเดเมียและไร่กาแฟบนดอยช้าง จึงสามารถดูแล และพัฒนาคุณภาพของมะคาเดเมียได้อย่างใกล้ชิด และเป็นการส่งเสริมรายได้ให้กับกลุ่มชาวบ้านที่มีความตั้งใจที่จะพัฒนาธุรกิจมะคาเดเมียให้เป็นธุรกิจของชุมชนต่อไป


การฝึกอบรมให้ความรู้


การเก็บเกี่ยวมะคาเดเมีย


ครอบครัวของบ้านดอยช้างที่อยู่ร่วมกันหลากหลายชนเผ่า